
ปูม้า (ชื่อวิทยาศาสตร์: Portunus armatus อดีตคือ Portunus pelagicus) เป็นปูที่พบอยู่ในทะเล และเป็นสิ่งมีความสำคัญทางเศรษฐกิจและอาหารในหลายประเทศ เช่น ประเทศไทย โดยมีลักษณะทางกายภาพและพฤติกรรมการเจริญเติบโตที่น่าสนใจดังนี้
ลักษณะทางกายภาพของปูม้า
- ส่วนตัว: ปูม้ามีส่วนตัวที่แบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก คือ ส่วนตัว, อก, และท้อง. ส่วนหัวและอกรวมกันและมีกระดองหุ้มอยู่บนส่วนนี้
- กระดอง: ปูม้ามีกระดองที่ตั้งอยู่ด้านบนของส่วนหัวและอก ทั้งสองข้างของกระดองจะมีรอยหยักคล้ายฟันเลื่อยเป็นหนามแหลมข้างละ 9 อัน
- ขา: ปูม้ามีขาเดินทั้งหมด 5 คู่. คู่แรกเปลี่ยนแปลงไปเป็นก้ามใหญ่เพื่อใช้ป้องกันตัวและจับอาหาร. ขาคู่ที่ 2, 3, และ 4 จะมีขนาดเล็กและปลายแหลมใช้เป็นขาเดิน. ขาคู่สุดท้ายมีลักษณะเป็นใบพายใช้ในการว่ายน้ำ.
- ขนาด: กระดองของปูม้าสามารถโตเต็มที่ได้ราว 15–20 เซนติเมตร
พฤติกรรมการเจริญเติบโตและการขยายพันธุ์ของปูม้า
- การกระจายพันธุ์: ปูม้าพบในทะเลทั่วโลก และในน่านน้ำไทยมีประมาณ 19 ชนิดของปูม้าที่พบได้. พวกเขาอาศัยอยู่บริเวณปากแม่น้ำและชายฝั่งทะเล โดยพบได้ในระดับน้ำลึกต่ำกว่า 40 เมตร
- การขยายพันธุ์: ตัวผู้และตัวเมียของปูม้ามีลักษณะแตกต่างกันที่จับปิ้งและสี. ตัวผู้มีก้ามยาวเรียวกว่า มีสีฟ้าอ่อนและมีจุดขาวตกกระทั่วไปบนกระดองและก้าม พื้นท้องเป็นสีขาว และจับปิ้งเป็นรูปสามเหลี่ยมเรียวสูง. ตัวเมียมีก้ามสั้นกว่ากระดองและก้ามมีสีฟ้าอมน้ำตาลอ่อนและมีจุดขาวทั่วไปทั้งกระดองและก้าม
- การฟื้นฟูปูม้า: เนื่องจากปูม้าเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่มีความสำคัญสูงในหลายประเทศ หน่วยงานภาครัฐและชาวประมงได้ทำการฟื้นฟูแหล่งทรัพยากรปูม้าในหลายที่ โดยการพัฒนาแนวทางการเลี้ยงและการจัดการทรัพยากรปูม้า การฟื้นฟูนี้เน้นการปรับปรุงโครงสร้างของระบบการเลี้ยงปูม้า, การดูแลสุขลักษณะและอนามัยในการประมง, การปรับอาหารในการเลี้ยงปูลูกอ่อนเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของปูม้าเร็วขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาปูม้าขนาดเล็กๆ ในระดับชาวประมงให้เข้าสู่มาตรฐานสินค้าเกษตร โดยเน้นเรื่องของสุขลักษณะในการทำการประมง รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีและประสบการณ์ใหม่เพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของปูม้า การพัฒนานี้ช่วยให้สินค้าปูม้ามีคุณภาพดีและมีมาตรฐานสูง ทำให้สามารถตรวจสอบและรับรองสินค้าได้ตามมาตรฐานสากล และเป็นประโยชน์ทั้งแก่ผู้ประมงและผู้บริโภคในการรับประทานปูม้าที่มีคุณภาพและปลอดภัย
การฟื้นฟูแหล่งทรัพยากรปูม้าเป็นขั้นตอนสำคัญในการรักษาสัตว์ทะเลที่มีความสำคัญในอาหารและเศรษฐกิจ การบริหารจัดการทรัพยากรทะเลอย่างมีระบบช่วยในการรักษาสมดุลของนิเวศวิทยาทางทะเล และสนับสนุนให้การใช้ปูม้าเป็นประโยชน์ยั่งยืนแก่ชุมชนและประเทศในระยะยาว

การจัดการทรัพยากรปูม้าให้เป็นประโยชน์ยั่งยืนมีผลต่อเศรษฐกิจในด้านต่างๆ ดังนี้
- เศรษฐกิจท้องถิ่น: การฟื้นฟูแหล่งทรัพยากรปูม้าช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยสร้างโอกาสให้กับชาวประมงในการจับปูม้าและการเลี้ยงปูเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การนำปูม้ามาประมูลหรือจัดส่งไปยังตลาดน้ำและร้านอาหารช่วยเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนในพื้นที่
- การส่งออกและการค้าระหว่างประเทศ: ปูม้าเป็นสินค้าส่งออกที่มีความความต้องการสูง การฟื้นฟูแหล่งทรัพยากรปูม้าและการควบคุมการประมงที่ยั่งยืนสามารถช่วยเพิ่มปริมาณส่งออกและรายได้จากการค้าปูม้าระหว่างประเทศ
- อาหารและอุตสาหกรรมอาหาร: ปูม้าเป็นอาหารที่โปรดปรานในหลายประเทศและทางอาหารของอาหารทะเล. การฟื้นฟูปูม้าช่วยให้มีความสมบูรณ์และปริมาณเพียงพอของปูม้าสำหรับการนำมาใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งเป็นประโยชน์ในการสนับสนุนธุรกิจอาหารและอุตสาหกรรมอาหาร
- การจัดการทรัพยากรทะเล: การฟื้นฟูแหล่งทรัพยากรปูม้ามีบทบาทสำคัญในการรักษาสมดุลของนิเวศวิทยาทางทะเลและสนับสนุนสิ่งแวดล้อมทะเลในระยะยาว นอกจากนี้ มีการศึกษาและวิจัยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการเลี้ยงปูม้าแบบยั่งยืนที่มีผลต่อการจัดการทรัพยากรทะเลในระดับทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ
- การท่องเที่ยวทางทะเล: ปูม้าเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ท่องเที่ยวทางทะเล การรักษาและการฟื้นฟูปูม้าช่วยสร้างทรัพยากรท่องเที่ยวทางทะเลที่ยั่งยืนและเสริมสร้างเศรษฐกิจท่องเที่ยวในพื้นที่ที่มีปูม้าอยู่
ติดตามสัตว์ทะเลเพิ่มเติม :: ปลาในทะเล